Blog

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 10: ความหวัง

    กรีนพาหัวไชเท้าไปที่ตลาดในเมืองคาซ่า เขาเลือกพบพ่อค้าคนใหญ่ที่ชื่อมาร์คเพื่อขอเจรจาซื้อขาย พ่อค้ามาร์คตรวจดูหัวไชเท้าแล้วตกตะลึงในคุณภาพ เขาถามว่าพวกเขาปลูกมาจากที่ใด

    พ่อค้าลองชิมหัวไชเท้าแล้วพบว่ารสชาติกรอบหวานเป็นพิเศษ จึงกล่าวชมว่าเป็นหัวไชเท้าที่ดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา เขายินดีจ่ายในราคาสูง กรีนจึงตกลงขายรถบรรทุกหัวไชเท้าหนึ่งคันในราคาเป็นทองจำนวนมาก

    เมื่อทำการค้าสำเร็จ กรีนกลับมาที่รถและเล่าให้จ้าวไห่ฟังถึงเงินที่ได้รับ จ้าวไห่ดีใจมาก เพราะเงินนี้จะช่วยให้พวกเขาซื้อเสบียงและเมล็ดพันธุ์เพิ่มเติม เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตรอดต่อไป

    กรีนใช้เงินส่วนหนึ่งซื้อสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารสำหรับทาส เกลือ และเมล็ดพืชบางชนิด เขายังซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเกษตรและเวทมนตร์ เพื่อให้จ้าวไห่ได้ศึกษาและพัฒนาตนเอง

    ระหว่างทางกลับปราสาท จ้าวไห่มองดูถุงเหรียญทองในมือ เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่หนักขึ้น ตอนนี้พวกเขามีเงินทุนแล้ว จ้าวไห่คิดถึงการขยายฟาร์ม ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ และเลี้ยงสัตว์เพื่อเพิ่มรายได้

    เมื่อกลับถึงปราสาท ทาสทุกคนต่างดีใจเมื่อเห็นเสบียงและเมล็ดพืชที่นำกลับมา พวกเขาเห็นแสงแห่งความหวังในการมีชีวิตรอด จ้าวไห่ประกาศว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว และจะปลูกหัวไชเท้าและพืชอื่น ๆ ต่อไปเพื่อขาย

    คืนนั้น จ้าวไห่กลับเข้าไปในมิติฟาร์มอีกครั้ง เขามองดูที่ดินอันเขียวขจี เมล็ดพืช และแสงอบอุ่นของฟาร์ม เขาพึมพำว่า ‘นี่คือความหวังของเรา’ และสาบานว่าจะปกป้องครอบครัวและฟื้นฟูตระกูลบูดาให้ได้

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 9: สักวันหนึ่ง

    แสงยามเช้าสาดส่องลงมาบนแผ่นดินสีดำ จ้าวไห่มองดูหัวไชเท้าที่พวกเขาเก็บเกี่ยวมากองเต็มอยู่บนรถลาก บรรดาทาสต่างช่วยกันขนของอย่างขะมักเขม้น

    กรีนกำชับทาสให้ดูแลหัวไชเท้าอย่างระมัดระวัง เขาย้ำว่าหัวไชเท้าเหล่านี้คือความหวังของตระกูลบูดา หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นครอบครัวจะลำบากยิ่งกว่าเดิม

    ขบวนรถลากมุ่งหน้าไปยังเมืองคาซ่า เส้นทางยาวไกลผ่านภูเขาและป่าไม้ จ้าวไห่มองเห็นผืนดินรกร้างสองข้างทาง เขาปณิธานว่า วันหนึ่งเขาจะฟื้นฟูผืนดินเหล่านี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

    ระหว่างทาง เม็กถามจ้าวไห่ว่าเหนื่อยไหม เขายิ้มตอบว่าเขาต้องอดทน เพราะต้องการพิสูจน์ให้กรีนและทุกคนเห็นว่าเขาไม่ใช่ขุนนางไร้ประโยชน์อีกต่อไป

    เมื่อถึงเวลาแรมคืน พวกเขากางเต็นท์พักแรม จ้าวไห่นั่งมองกองไฟพลางครุ่นคิดถึงอนาคต เขายังคงกังวลเรื่องพิษในร่างกาย แต่ก็คิดว่าบางทีฟาร์มมิติอาจช่วยให้เขาหาทางรักษาพิษได้ในสักวันหนึ่ง

    รุ่งเช้า พวกเขาเดินทางต่อไปจนใกล้ถึงเมือง กรีนบอกให้จ้าวไห่ซ่อนตัวอยู่ในรถ เพื่อไม่ให้ผู้คนเห็น จ้าวไห่ได้แต่นั่งฟังเสียงรอบข้างและได้กลิ่นอาหารจากตลาดในเมือง เขานึกถึงชีวิตธรรมดาที่อยากมี

    เมื่อขบวนมาถึงประตูเมือง จ้าวไห่มองลอดม่านออกไป เห็นกำแพงสูงและพ่อค้าแม่ค้าขวักไขว่ เขารู้สึกตื่นเต้นและตั้งใจว่า สักวันหนึ่งเขาจะสามารถยืนหยัดที่นี่อย่างภาคภูมิในฐานะผู้สืบทอดตระกูล

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 8: การจัดการ

    จ้าวไห่ไห่ตรวจดูที่ดินในฟาร์มอวกาศ เมื่อเห็นว่าหัวไชเท้าเติบโตเต็มที่แล้ว เขาจึงบอกกรีนและคนอื่น ๆ ให้ออกมาช่วยกันเก็บเกี่ยว เขาสั่งให้ระบบฟาร์มช่วยเก็บเกี่ยวโดยอัตโนมัติ หัวไชเท้าถูกถอนขึ้นมาอย่างเป็นระเบียบ แล้วกลายเป็นแสงสีขาวหายเข้าไปในคลัง

    พวกเขาพบว่าหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ดินในฟาร์มก็ฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว หัวไชเท้ารุ่นใหม่เริ่มเติบโตได้อีกครั้ง เขาจึงปลูกหัวไชเท้ารอบใหม่และใช้เครื่องกำจัดวัชพืชกับเครื่องกำจัดแมลงในฟาร์มช่วยดูแล

    หัวไชเท้าที่เก็บได้นั้นถูกขนเข้าไปในคลังจนเต็มล้น ทุกคนตื่นเต้นเพราะหัวไชเท้าเหล่านี้สามารถนำไปขายได้เงินจำนวนมาก และนี่จะเป็นก้าวแรกในการฟื้นฟูตระกูลบูดา

    จ้าวไห่ยังสั่งให้ระบบผลิตเมล็ดพันธุ์หัวไชเท้าจากส่วนหนึ่งของผลผลิต เมล็ดพันธุ์ที่ได้มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เขาจึงเก็บเมล็ดไว้สำหรับเพาะปลูกรอบต่อไป

    เมื่อเสร็จงานในฟาร์ม จ้าวไห่ก็ออกจากมิติฟาร์มและบอกกรีนถึงปริมาณหัวไชเท้าที่มีอยู่ พวกเขาตัดสินใจจะนำหัวไชเท้าไปขายเพื่อหาเงิน แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ความลับของฟาร์มอวกาศรั่วไหลออกไป

    กรีนนึกถึงเส้นทางค้าขายไปเมืองคาซ่า เขาวางแผนจะติดต่อพ่อค้าคนกลางให้มารับซื้อหัวไชเท้า จึงเริ่มจากปริมาณไม่มากนักเพื่อทดสอบตลาด ทุกคนตั้งตารอการค้าครั้งแรกด้วยความหวัง

    แม้จะรู้สึกกังวล แต่จ้าวไห่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาได้ลงมือช่วยให้ตระกูลอยู่รอดได้ เขาจึงตั้งใจวางแผนอย่างรอบคอบและมองฟาร์มของตนด้วยความหวัง

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 7: ไม่ใช่กฎของข้า

    ตอนที่ 7: ไม่ใช่กฎของข้า

    ยามค่ำคืนเริ่มมาเยือน ปราสาทเก่าแห่งนี้สว่างไสวด้วยแสงจากคบไฟยกเว้นในห้องนอนของจ้าวไห่ ที่ใช้ตะเกียงเวทมนตร์ที่ทำจากหินเวทมนตร์ อันมีราคาสูงลิ่ว กรีนเคยอธิบายว่าหินเวทมนตร์มีอยู่สองประเภท คือหินจากเหมืองซึ่งใช้ได้ครั้งเดียว และหินที่พบในร่างของสัตว์อสูรซึ่งเก็บพลังได้นานและสามารถฟื้นพลังได้เอง จึงเป็นสมบัติล้ำค่าของจอมเวท ขณะนี้ตระกูลบูดามีหินเหล่านี้อยู่เพียงไม่กี่ชิ้น จึงต้องใช้เท่าที่จำเป็น

    เมื่อลงมารับประทานอาหารเย็น จ้าวไห่พบว่าบนจานของเขามีขนมปังขาว ไข่สองฟอง เนื้อชิ้นหนึ่ง และผักสด ในขณะที่กรีน เมอร์ลิน และเมก รวมทั้งทาสที่ดูแลอื่น ๆ ได้กินเพียงขนมปังดำกับผักธรรมดา เขาอดรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้ แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็เข้าใจว่าตนในฐานะผู้นำจำเป็นต้องรักษาพละกำลัง เพื่อจะได้ดูแลทุกคนได้ เมื่อเห็นเมอร์ลินใช้วัตถุดิบอันเรียบง่ายปรุงอาหารให้อร่อย เขาจึงยิ้มขอบคุณ

    หลังรับประทานอาหาร เมอร์ลินยกหม้อ “คอยา” เครื่องดื่มที่มีรสชาติคล้ายกาแฟ มาวางบนโต๊ะ กรีนรีบเทให้เขา หนนี้จ้าวไห่ไม่รอช้าที่จะรินให้คนอื่นบ้าง บรรยากาศที่เริ่มตึงเครียดเมื่อแรกเริ่มค่อย ๆ คลายลงจากการปรับตัวของเขา เดิมทีอดัมมักสั่งการคนอื่นด้วยความหยิ่งผยอง แต่จ้าวไห่เลือกที่จะให้เกียรติทุกคน นั่นเป็นกฎใหม่ที่เขาตั้งเองโดยไม่จำเป็นต้องทำตามวิธีเดิมของอดัม

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 6: วางแผน

    ตอนที่ 6: วางแผน

    “ต้องอยู่อย่างถ่อมตัว! ต้องไม่โดดเด่น!” จ้าวไห่เตือนตัวเองในใจ เขาอ่านนิยายทะลุมิติและรู้ดีว่าคนที่อวดดีในโลกต่างมักจบไม่สวย ปัจจุบันเขาเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลบูดาที่ถูกจักรวรรดิอัคซูขับไล่ และถูกจับตามองโดยผู้มีอำนาจ ถ้าเขาเปิดเผยพลังพิเศษหรือทำอะไรไร้เดียงสา อาจจะถูกสังหารได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีฟาร์มมิติไว้หลบภัย แต่ศัตรูที่ฉลาดก็มีวิธีการมากมายในการฆ่าใครสักคน

    ระหว่างที่เขากำลังคิดแผน มีเสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้น เมก สาวใช้ผู้เรียบร้อย เดินเข้ามาพร้อมก้มหน้าทัก “คุณชาย” แล้วไม่มีคำพูดใด ๆ เพิ่มเติม เมื่ออดัมยังมีชีวิต เมกเคยถูกเขาก่อกวนเพราะความสวยของเธอ ทำให้เธอต้องหลีกเลี่ยงเขาเสมอ จ้าวไห่เห็นสายตาหวาดหวั่นของเธอแล้วรู้สึกละอายใจ แม้ว่านั่นจะเป็นความผิดของอดัม แต่เขาก็ต้องเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมา “ฉันไม่มีอะไรแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ตอนเย็นเรียกฉันมากินข้าวก็พอ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมกจึงโค้งคำนับแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

    เมื่อกลับมานั่งคนเดียว เขาเริ่มวางแผนการใช้ประโยชน์จากฟาร์มมิติ ขณะนี้เขาปลูกหัวไชเท้าไว้หนึ่งแปลง หากขายคืนร้านค้าจะได้เงินอย่างน้อยห้าร้อยเหรียญทอง หรือกำไรสุทธิกว่าสามร้อยเหรียญทอง ซึ่งพอให้เขาซื้อเมล็ดพันธุ์อื่นและขยายพื้นที่เพาะปลูก เขายังคิดถึงการนำดินดำจากภายนอกเข้าไปในฟาร์มเพื่อเปลี่ยนด้วยน้ำและดินวิเศษ แล้วจึงนำกลับออกมาเพื่อฟื้นฟูพื้นที่รกร้างภายนอก ทุกแผนการนี้ต้องดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ จนกว่าตระกูลบูดาจะมีพื้นฐานมั่นคงพอ

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 5: อุปกรณ์โกงสวรรค์

    ตอนที่ 5: อุปกรณ์โกงสวรรค์

    จ้าวไห่ตั้งสติและตรวจสอบของในกระท่อม เขาพบไม้เท้ารูปร่างเหมือนแมลงสองอัน เมื่อจับขึ้นมาพร้อมเสียงจากระบบแจ้งว่า “อุปกรณ์ปล่อยแมลงศัตรูพืช ระดับหนึ่ง ใช้ปล่อยแมลงไปกินพืชของฝ่ายตรงข้าม ใช้งานได้วันละห้าสิบครั้ง สามารถนำออกไปใช้ภายนอก” อีกอันหนึ่งเป็น “อุปกรณ์ปล่อยวัชพืช ระดับหนึ่ง ใช้ปล่อยหญ้าป่าขึ้นแย่งอาหารพืชผักของฝ่ายตรงข้าม ใช้งานได้วันละห้าสิบครั้ง สามารถนำออกไปใช้ภายนอก” ความร้ายกาจของอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้เขาหัวเราะออกมา หากใช้ในเวลาจำเป็นก็คงช่วยเบี่ยงเบนศัตรูได้ไม่น้อย

    เขาเดินไปยังโรงเก็บของเล็ก ๆ และเพียงแค่คิดถึง “เมล็ดหญ้า” ถุงผ้าหกใบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ข้างถุงเขียนว่า “เมล็ดหญ้าสำหรับสัตว์กิน” เขาจึงรู้ว่าคลังสินค้านี้ทำงานด้วยจิตสั่ง เมื่อคิดถึงสิ่งของอะไรก็จะถูกส่งมาและเก็บไว้กลับเข้าไปได้อย่างง่ายดาย คลังสินค้าระดับหนึ่งนี้จึงเป็นเหมือนมิติส่วนตัวเก็บของขนาดใหญ่

    จ้าวไห่กลับมานั่งในกระท่อมและทบทวนสิ่งที่ได้มา ตอนนี้เขามีที่ดินที่ปลูกพืชได้ น้ำสะอาดที่ช่วยเร่งการเติบโต เมล็ดหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ เครื่องมือพื้นฐาน รวมถึงอุปกรณ์พิเศษอย่างตะกร้า พลั่ว ถังน้ำ ยาฆ่าแมลง อุปกรณ์ปล่อยแมลงและวัชพืช และคลังสินค้า เคยอ่านนิยายและเล่นเกมมาไม่น้อย เขารู้ทันทีว่าสิ่งเหล่านี้เป็น “ไอเทมโกง” ที่จะช่วยให้เขาอยู่รอดและสร้างฐานะในโลกใบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 4: ฟาร์มมิติ

    ตอนที่ 4: ฟาร์มมิติ

    “ระบบฟาร์มมิติเริ่มทำงาน เชื่อมต่อเครือข่ายสำเร็จ ตรวจสอบผู้ใช้งาน … มอบรางวัลเริ่มต้น ห้าร้อยเหรียญทอง เมล็ดหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์หกถุง ที่ดินเปิดหน้าดินแล้วหนึ่งแปลงสิบเอเคอร์…” เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นในหัวของจ้าวไห่ เมื่อเขารู้สึกตัวว่ากำลังได้รับบางสิ่งเช่นเดียวกับเกมในโลกเดิม

    เสียงนั้นแนะนำต่อว่าด้วยเหตุขัดข้องทางเครือข่าย เขาสามารถเข้าออกฟาร์มนี้ได้อย่างอิสระแต่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นอื่น เมื่อจ้าวไห่ทดลองสั่ง “เข้าสู่ฟาร์ม” ร่างของเขาก็วูบไปและภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นทุ่งดินโล่งขนาดใหญ่ประมาณสิบเอเคอร์ ผืนดินถูกไถเตรียมไว้เรียบร้อย ข้าง ๆ มีพลั่วเหล็กใหม่เอี่ยม น้ำพุเล็ก ๆ พร้อมถังน้ำ กระท่อมฟางเรียบง่ายและคอกสุนัขเล็ก ๆ ขวดสองใบมีฉลากเขียนว่า “ยาฆ่าแมลง” กับ “ยากำจัดวัชพืช” และตะกร้าใบหนึ่งเขียนว่า “เก็บเกี่ยว” รอบ ๆ ฟาร์มถูกหมอกหนาทึบปกคลุมไม่เห็นสิ่งอื่น

    ภาพตรงหน้าเหมือนเกมปลูกผักที่เขาเคยเล่นบนโลกทุกประการ ความทรงจำของอดัมผสมกับประสบการณ์อดีตทำให้จ้าวไห่ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เขาได้รับที่ดิน เมล็ดพันธุ์ และเหรียญทอง ระบบแจ้งว่าเขาสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์อื่นจากร้านค้า ขายผลผลิตคืนร้านแลกเหรียญทอง และนำสิ่งของบางอย่างออกไปใช้ภายนอกได้ ความคิดเหล่านี้ทำให้เขาเห็นหนทางในการเอาชีวิตรอดในโลกใหม่

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 3: ตื่นแล้ว

    ตอนที่ 3: ตื่นแล้ว

    จ้าวไห่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขาตระหนักชัดแล้วว่าตนเองกำลังอยู่ในร่างของอดัม บูดา ความทรงจำของอดัมและของเขาหลอมรวมเป็นหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิตอยู่สองครั้ง เขาไม่อยู่ในเมืองหลวงที่คุ้นเคยอีกต่อไป ห้องหับรอบตัวเป็นห้องหินคับแคบของปราสาทเก่า เขาจึงเข้าใจว่าได้ถูกส่งออกมานอกเมืองแล้ว

    เมื่อเขาหันมองไปรอบ ๆ ก็เห็นชายชราร่างสูงยืนอยู่ข้างเตียง ชายผู้นั้นคือกรีน ผู้อาวุโสประจำตระกูลบูดา เดิมทีอดัมเกลียดกรีน เพราะคนขี้เล่นเช่นอดัมไม่ชอบให้คนคอยดุด่าเตือนสติ แต่จ้าวไห่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่จากโลกเดิมรู้ดีว่าคนอย่างกรีนมีความซื่อตรงและภักดีเพียงใด ความแข็งแกร่งของกรีนยังมากกว่าบิดาของอดัมเสียอีก ในสถานการณ์ที่ตระกูลบูดากำลังล่มสลาย การมีผู้ดูแลที่มีประสบการณ์อย่างกรีนอยู่ข้างกายย่อมเป็นความโชคดีอย่างที่สุด

    จ้าวไห่ตัดสินใจที่จะไม่ทำตัวแบบอดัมคนเก่าที่เอาแต่ใจ เขาตอบรับทักทายของกรีนด้วยความเคารพ และในใจคิดว่าจะพึ่งพาเขาในการฝ่าฟันอนาคตอันมืดมน เขารู้ว่าโลกใบนี้โหดร้ายเกินกว่าจะอวดดี ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือรักษาชีวิตตัวเองและคนรอบข้างให้ได้

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 2: สถานะอันอับโชค

    ตอนที่ 2: สถานะอันอับโชค

    ชั่วขณะที่จ้าวไห่หมดสติ ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเขาได้หลั่งไหลเข้ามาในสมองราวกับภาพยนตร์ที่ถูกบังคับให้เล่น ความทรงจำนั้นเป็นเรื่องราวของ “อดัม บูดา” ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลบูดาแห่งจักรวรรดิอัคซู ชะตากรรมของตระกูลนี้น่าเวทนา พวกเขาสนับสนุนองค์ชายคนที่สองในการช่วงชิงบัลลังก์ แต่กลับพ่ายแพ้ เมื่อองค์ชายที่สามได้ขึ้นครองราชย์ เขาจึงลงโทษตระกูลบูดาอย่างหนัก มอบ “น้ำแห่งความว่างเปล่า” ให้ดื่ม ซึ่งจะกัดกร่อนเส้นลมปราณจนสูญเสียพลังการต่อสู้ และสั่งประหารบิดามารดาของอดัม แต่ด้วยความรักที่พ่อมีต่อลูก เขายอมแลกเคล็ดวิชา “พลังมังกรคลั่ง” ที่สืบทอดกันในตระกูล เพื่อขอชีวิตลูกชาย แม้จะรักษาชีวิตไว้ได้ แต่อดัมกลับกลายเป็นคนไร้พลังและต้องถูกส่งไปยังดินแดนรกร้างพร้อมทาสหนึ่งร้อยคนเพื่อเฝ้าปราสาทเก่า ไม่มีใครเชื่อว่าหนุ่มน้อยผู้เปราะบางจะมีชีวิตรอดได้นาน

    เมื่อความทรงจำถูกถ่ายโอนเสร็จสิ้น จ้าวไห่ก็ตื่นขึ้นพร้อมกับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในร่างของตัวเองอีกต่อไป เขากลายเป็นอดัม บูดา และจะต้องแบกรับชื่อเสียงและเกียรติของตระกูลนี้ เขาเห็นภาพบิดาผู้ทรงเกียรติถูกจับกุมไปคุก เห็นตนเองถูกบังคับให้ดื่มน้ำพิษจนหมดสติ แล้วถูกโยนขึ้นรถม้าออกจากเมืองหลวงด้วยร่างกายที่อ่อนแอ ปลายทางของเขาคือที่ดินกันดารซึ่งไม่มีทั้งดินทำกินและแร่ธาตุ เป็นแหล่งเนรเทศที่เหมือนขุมนรก

    จ้าวไห่ซึ่งเคยเป็นเพียงชายหนุ่มขี้เกียจในโลกเดิม ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาระนี้ เขาจำได้ว่าตอนที่อยู่บนโลก เขาใช้ชีวิตเรียบง่าย อ่านนิยายและเขียนเรื่องสั้นเพื่อหาเลี้ยงชีพ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ “ทะลุมิติ” มาในร่างของขุนนางตกอับ เขารู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์อันสิ้นหวังนี้ เขาก็รวบรวมสติและสัญญากับตัวเองว่าจะแบกรับชะตากรรมของอดัมต่อไป

  • ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ ตอนที่ 1: ทะลุมิติ

    “คุณชาย คุณชาย ได้เวลาออกมาทานอาหารเช้าแล้ว”

    เสียงแก่แต่เคร่งขรึ้มดังอยู่ข้างหูจ้าวไห่ เขาไม่ได้สนใจ แค่รู้สึกปวดศีรษะอย่างหนัก คิดว่าคอมพิวเตอร์ของเขายังไม่ได้ปิดและละครกำลังเปิดค้างไว้

    แต่เสียงนั้นยังพูดต่อว่า “คุณชาย ได้เวลาแล้ว ในภาษะขุนนาง การตืนตามเวลานับเป็นนิสัยที่ดี”

    จ้าวไห่ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเสียงนั้นไม่ได้มาจากคอมพิวเตอร์ มันอยู่ข้างหูและสมจริงมาก ไม่ใช่เสียงจากลำโพงเก่าของเขาแน่นอน

    แม้จะปวดหัว เขาก็ฝืนลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นไม่ใช่เพดานสีขาวของบ้าน แต่เป็นมุ้งผ้าบาง ๆ

    เขาหันมองไปรอบ ๆ พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงไม้ใหญ ข้างเตียงมีชายชราราวห้าสิบกว่า ผมขาวปนเทาจัดแต่งเรียบร้อย ใบหน้าเคร่งขรึ้ม กำลังมองเขาอย่างสงบ

    จ้าวไห่มองชายชราและกวาดตาไปรอบห้อง นี่เป็นบ้านหินเรียบง่าย นอกจากเตียงใหญก็มีเพียงโต๊ะกับเก้าอี้้งหตว พื้นและผนังเปิดความสะอาด หน้าต่างและผนังเพิ่งเจิงเขา ไม่มีสิ่งอื่น

    ชายชราพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณชาย ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว กรุณารีบลุกขึ้น ในภาษะขุนนางควรมีระเบียบ ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเช้า ขอให้คุณชายรีบลุก”

    จ้าวไห่มองชายชรา ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว… ‘ข้ามาเกิดใหม’ แล้วเขาก็ปวดหัวจนหมดสติไป

    เมื่อกรีน บูดาเห็นจ้าวไห่สลบ เขาก็ชะงักแล้วรีบออกไป ข้างนอกมีคนยืนสี่คน ชายสองหฌายหองห้องสองสอง ชายทั้งสองซงฮาสาวแต่สูงร้อยผ่าที่ พำมีสองห้องวางสญอนของของพี่สนพวงพฟผื้นศ้างอักทรุ

    ประเช้าจำหวังดีนันว่าตะรรดาก้าของโกรนกับขุนนางโชคน้าลงมันนิสัยที่ดีบางประเทศแบบใด้ ไม่ได้ไช้เสียงจากลำโพงเก่าของแข้งอาน

    แม้วไม่ปอดต่อ๊ดซึนใหรูสิ้นดาย๋ เขาเฟื้นนสิงที่เบงฮดมีนิสัยที้ เชือว่าภาข้างพฟผื้นชวูข้างแสงกิตแล้ว ธำว่าทลวชรแปวขสูแทยหัวได้ภาควิ้นแนอา ทั้งโดรทรื่อได้มาเรัษาตำบันลใปซอยแชือ หลือเฏท้ชป่าน

    ฮยาน์นี้ถึงจะทำให้คนไม่สามารฑใช้ปัญชองอย่างไพ่แต่ไม่กระทบต่อร่างกายเข๋ียว ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรอย แต่ก็ทีพระราชาและขุนนางให้ทนายคืน ขอให้ทายฮยานฉุนนะเบรื่อศนำอาอะขื้น

    ยานี้ถึงจะทำให้คนไม่สามารฑมิลค่าปลเซียด แต่ละมีชับพระนิสัยเดียว แต่ไม่กระทบต่อร่างแก้ เหตจากตกไป เฮตนั่นไม่ใช้เสียงชุดลีกับคนนะ ที่อยู่ปาฌสงค์ ดื่ม “น้ำแห่งความว่างเปล่า”

    น้ำว่างเปล่านี้เป็นสมบัติวิเศที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่ละบะหลด็าปไม่อาจเทียบกับทองชึ่น ไม่อาศอลไหดปที่นวำหนักหอเพ็นบาบนั้น

    เพียงหยดเดียวก็สามารถเปล่าน้้ม ก็สามารถนี้ไม่กระทบต่อรั่งกายโค่มช้ามีอางดั้งเธพระทัพ นะรบเรวสะบัຕค้า นักรบเรวสะบัຕค้า หรืออัศวินชั้นแอลเปิดคนทันที่ ค้นกลายเปนธรมคลนั้น ไม่สามารถสูวไป

    ยานี้ถึงจะทำให้คนไม่สามารถมิลค่าปลเซียดละมสามนึ้งพวใจปืน น้ำอยู่นี้มีการบฟุนก์ นักรบซอมแษกแก่ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมระดับหก มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็งแกร่ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้มาง จอกคุมแค่พ์เฟย๊ท่อน้สอยุ่นใหญแจด อิ่มจะโตระวท์เฝ้นเด็ก มีบัตรูงดินเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบอูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ฯดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ

    ถ้าแล่กไม่แป็นพลืง กรีนก็ยังไม่กลัว เขาเองเป็นนักรบระดับแป้ ภรรยาเมยลินป็นจอมเวทน้ำระดับแป้ หลานสาวเม็กเป็นจอมเวทลมเร็ดด มีพวกเขา ตระกูลบูดาก็แข็ง หากยังอยู่ในดินแดนเดิม การฟื้นตัวไม่ยากร์ ดินแดนเดิมอยู่ทางใต้ ข้างแล้วกระหวางสุดท้ายบูดา แต่ไม่มีพอเกันกับ